Custom Search
วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การแลกเปลี่ยนโดยใช้เงินเป็นสื่อกลาง

เนื่องจากการแลกเปลี่ยน โดยใช้ของแลกของประสบปัญหาดังกล่าวข้างต้นมนุษย์จึงหาวิธีการแลกเปลี่ยนที่สะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาใช้ โดยการกำหนดสิ่งของบางอย่างขึ้นมาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน โดยเรียกสิ่งนั้นว่า "เงิน"
เงิน คือ สิ่งใดก็ตามที่สังคมนั้นยอมรับให้ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในขณะใดขณะหนึ่งและสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ซึ่งในแต่ละสังคม อาจจะใช้สิ่งใดแทนเป็นเงินก็ได้ โดยแต่ละสังคมอาจไม่เหมือนกัน สิ่งที่ใช้เป็นเงินตั้งแต่อดีต เช่น หนังสัตว์ เปลือกหอย อัญมณี ใบชา สัตว์ เกลือ เป็นต้น
เงินแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
2.1 เงินตราที่มีค่าสมบูรณ์ตามที่ตราไว้ คือ เงินตราที่มีค่าเท่ากับราคาของสิ่งที่นำมาทำเป็นเงินนั้น เช่นประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดให้ค่าของเงิน 1 ดอลลาร์เทากับทองคำบริสุทธิ์หนัก 23.22 เกรนและทองคำที่นำมาทำเหรียญดอลลาร์ ของสหรัฐอเมริกาในยุคแรกๆ ก็ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์หนัก 23.22 เกรน ดังนั้นไม่ว่าจะนำเงินตรา 1 ดอลลาร์ไปซื้อสินค้าหรือนำเหรียญมาหลอมนำออกขายก็จะได้มูลค่าเท่ากัน
2.2 เงินตราที่ใช้แทนเงินตราที่มีค่าสมบูรณ์เต็มตามที่กำหนดไว้ คือ เงินตราที่เป็นบัตรแทนเงินโดยรัฐบาลของแต่ละประเทศ จะเป็นผู้ออกบัตร โดยผู้เป็น เจ้าของบัตรสามารถสลักหลังโอนบัตรให้แก่ผู้อื่นได้ จึงสะดวกในการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่เดิมผู้ซื้อจะต้องนำเงินตรา มีค่าสมบูรณ์เต็มตามที่ตราไว้ นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ซึ่งไม่สะดวกในการขนย้ายและไม่ปลอดภัย
2.3 เงินเครดิต คือเงินตราชนิดใดก็ตามที่มีมูลค่าของเงินจะสูงกว่าค่าของวัสดุที่นำมาทำเงินนั้น โดยรัฐบาลจะเป็นผู้ควบคุมกำหนดปริมารเงินเครดิต ให้มีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งเงินประเภทนี้ไม่รวมถึงเงินตราที่ใช้แทนเงินตราที่มีค่าสมบูรณ์เต็มตามที่กำหนดไว้ เงินเครดิตแบ่งออกได้ ดังนี้
1. เหรียญกษาปณ์ คือ เงินตราที่ใช้โลหะในการผลิตโดยรัฐบาลเป็นผู้ออกกฏกำหนดราคาที่ตราไว้สูงกว่ามูลค่าของโลหะที่นำมาผลิตเหรียญ เช่น เหรียญ 5 บาท เมื่อนำไปใช้ในระบบเศรษฐกิจจะมีค่าเท่ากับ 5 บาท แต่เมื่อนำเหรียญมาหลอมนำออกขายจะได้ราคาต่ำกว่า 5 บาทปัจจุบัน
2. ธนบัตร คือ เงินตราที่ใช้กระดาษในการผลิต โดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศเป็นผู้ออกธนบัตร เพื่อนำมาใช้ในระบบเศรษฐกิจ สามารถนำไปชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ปัจจุบันมีการนำวัสดุสังเคราะห์ประเภทพอลิเมอร์มาผลิตเพิ่มขึ้นด้วย
3. เงินฝากเผื่อเรียก คือเงินฝากที่ประชาชนฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์ประเภทเงินฝากกระแสรายวัน สามารถใช้เช็คเป็นเครื่องมือในการถอนเงิน หรือโอนเงินเปลี่ยนมือให้บุคคลอื่น ทำให้ผู้ฝากได้รับความสะดวก ความปลอดภัย และสามารถให้ผู้รับเงินตามเช็คสลักชื่อไว้หลังเช็คเพื่อเป็นหลักฐานในการรับเงินไว้ด้วย

หน้าที่ของเงิน สรุปได้ดังนี้
1. เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เนื่องจากสังคมใหญ่ขึ้น มนุษย์มีการแบ่งงานกันทำตามความถนัดเมื่อผลิตสิ่งของได้ก็นำไปแลกกับเงิน และสามารถนำเงิน ที่ได้รับไปซื้อสิ่งของอื่นที่มีความต้องการแต่ผลิตเองไม่ได้ ทำให้การผลิตมีปริมาณมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์
2. เป็นมาตรฐานในการกำหนดมูลค่า การกำหนดมูลค่าของสินค้าหรือบริการเป็นหน่วยของเงินเรียกว่าราคา การใช้เงินเป็นสื่อกลาง ในการแลกเปลี่ยน จะทำให้สินค้นหรือบริการตีมูลค่าออกมาเป็นราคา เช่นข้าวเปล่า 1 จาน มีราคา 5 บาท ไข่ไก่ 1 ฟอง มีราคา 2.50 บาท หมู่ 1 ตัวราคา 5,000 บาท ทำให้การวัดค่าสิ่งต่างๆเป็นมาตรฐานเดียวกัน
3. เป็นมาตรฐานการจ่ายคืนในอนาคต การซื้อขายสินค้นหรือบริการในปัจจุบันมี 2 กรณีคือขายเป็นเงินสด คือ ชำระมูลค่า ณ วันที่ตกลงซื้อขาย และขาย เป็นเชื่อ คือ ตกลงชำระมูลค่าในภายหน้าการที่ใช้เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ทำให้การชำระหนี้ในอนาคตมีความมั่งคงและแน่นอนในมูลค่าเช่นณ วันนี้ นายดำรงตกลงซื้อเสื้อ 1 ตัว ราคา 200 บาท โดยจะจ่ายชำระเงินให้นายสุชาติ อีก 1 เดือน นับจากวันนี้เมื่อครบกำหนด ระยะเวลา 1 เดือนนายดำรงก็จ่ายชำระเงินให้นายสุชาติ 200 บาทตามข้อตกลง
4. เป็นการสะสมมูลค่า เมื่อมนุษย์มีการติดต่อซื้อขายกัน จะได้เงินเนื่องจากการแลกเปลี่ยนหรือคนงานทำงานให้นายจ้างได้ผลตอบแทนเป็นเงิน มนุษย์จะมีการสะสมเงินไว้เพื่อใช้จ่ายในอนาคต คนที่มีการสะสมเงินไว้มากก็จะแสดงถึงความมั่นคงทางฐานะทางเศรษฐกิจ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น